top of page
Writer's pictureรุ่งรัตน์

Rolls-Royce



















โรลส์-รอยซ์ จารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ทำลายทุกสถิติในปี 2562

● ยอดขายรวมประจำปีอยู่ที่ 5,125 สูงสุดในประวัติศาสตร์ 116 ปีของแบรนด์

● ยอดขายที่เพิ่มขึ้น คิดเป็นการเติบโต 25% จากยอดขาย 4,107 คัน ในปี 2561

● ยอดขายต่อปีเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาคทั่วโลก

● คัลลิแนน และ แบล็ค แบดจ์ ได้รับความนิยมอย่างสูง จนสามารถสร้างฐานอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและมั่นคงให้กับ


ยนตรกรรม โรลส์-รอยซ์ รุ่นอื่นๆ อีกด้วย

● ผลงานรังสรรค์แบบสั่งผลิตพิเศษ (Bespoke) ที่งดงาม และยนตรกรรม Collection Cars ตอกย้ำสถานะของโรลส์-รอยซ์ ในฐานะผู้ผลิตชั้นนำแห่งยนตรกรรมซูเปอร์ลักซ์ชัวรี

● มีการลงทุนครั้งสำคัญในการพัฒนาฐานการผลิตที่กู๊ดวูด และขยายทีมการผลิตเพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากทั่วโลก

● ผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ Apprenticeship Programme ในปี 2562 มีจำนวนมากที่สุดตั้งแต่เริ่มโครงการ

โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ทำลายสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2562 ด้วยความสำเร็จระดับโลก

อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ 116 ปีของบริษัท ยนตรกรรมจำนวน 5,125 คัน ถูกส่งมอบให้กับลูกค้าในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก เพิ่มขึ้น 25% จากสถิติก่อนหน้าที่เคยบันทึกไว้ช่วงปี 2561 และผลสัมฤทธิ์ที่ดีเลิศเช่นนี้ก็ทำให้โรลส์-รอยซ์ สามารถเดินหน้าสร้างการเติบโตให้กับผลประกอบการโดยรวมของ BMW Group ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นหลัก


มร. ทอร์สตัน มูเลอร์-ออทเวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส กล่าวเกี่ยวกับความสำเร็จครั้งนี้ว่า “ผลประกอบการในปีนี้แตกต่างจากปีที่ผ่านมา ในหลายๆ แง่มุม ผมมองว่าสำหรับบริษัทใดๆ ก็ตาม การสร้างการเติบโตถึง 25% ภายในปีเดียว คือความสำเร็จที่น่าทึ่ง และยิ่งถ้าต้องเผชิญกับผลกระทบในด้านต่างๆ และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ยิ่งนับเป็นความสำเร็จอันหาที่เปรียบไม่ได้ นี่คือข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงคุณภาพและความซื่อตรงต่อผลิตภัณฑ์ของเรา ความเชื่อมั่นและความหลงใหลในผลิตภัณฑ์จากลูกค้า และเหนือสิ่งอื่นใดคือ ทักษะ ความทุ่มเท และความมุ่งมั่นของทีมงานที่ยอดเยี่ยมของเราที่กู๊ดวูด และทั่วโลก”

การเติบโตของยอดขายทั่วโลก

ปีที่ผ่านมา ยอดขายของ โรลส์-รอยซ์ เพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาค ซึ่งได้รับแรงขับเคลื่อนมาจากความต้องการของลูกค้าที่เหนียวแน่นต่อยนตรกรรมทุกรุ่น ตลาดสำคัญทุกแห่งของบริษัทสร้างสถิติยอดขายใหม่ โดยยอดสูงสุดอยู่ที่อเมริกาเหนือ (ประมาณ 33% ของยอดขายทั่วโลก) ตามมาด้วยจีน (ยอดขายเพิ่มขึ้น 25% จากปี 2561) และประเทศอื่นๆ ที่ทำลายสถิติยอดขายในตลาดของตนเอง ได้แก่ รัสเซีย, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, กาตาร์ และเกาหลีใต้ในปี 2562 ยนตรกรรมจาก โรลส์-รอยซ์ ถูกจำหน่ายในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ในปีนี้ โรลส์-รอยซ์ ยังได้ประกาศต้อนรับตัวแทนจำหน่ายใหม่อีกสองราย ได้แก่ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส บริสเบน และ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส เซี่ยงไฮ้ ผู่ตง เป็นผลให้แบรนด์มีตัวแทนจำหน่ายทั่วโลกถึง 135 รายสำหรับยอดขายโรลส์-รอยซ์ในประเทศไทยก็ได้ส่งสัญญาณการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอดปี พ.ศ. 2562 โดยมีปัจจัยบวกเป็นความสนใจของลูกค้าที่มีต่อยนตรกรรมทุกรุ่นซึ่งยังคงเส้นคงวาและกระแสความนิยมของคัลลิแนนที่เพิ่มมากขึ้น โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก ผู้นำเข้ายนตรกรรมโรลส์-รอยซ์อย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย ส่งท้ายปีด้วยการเผยโฉม เรธ อีเกิล VIII (Wraith Eagle VIII) ผลงานสั่งผลิตพิเศษชั้นสูงจากกู๊ดวูดเพื่อตลาดประเทศไทยโดยเฉพาะ ที่มาพร้อมกับแพ็คเกจประกันทั่วภูมิภาคและบริการหลังการขายครบครัน


โรลส์-รอยซ์ทุกรุ่นยอดขายเติบโตทั่วโลก

แฟนธอม ยังคงครองบัลลังก์ในฐานะยนตรกรรมยอดนิยมอันดับหนึ่งของบริษัท ตามมาด้วย ดอว์น และ เรธ ยนตรกรรมทั้งสามรุ่นนี้ยังคงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ขณะที่ คัลลิแนน เอสยูวีน้องใหม่ ก็ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนเสียงชื่นชมจากสื่อและสาธารณชนในปี 2562 ให้กลายเป็นยอดสั่งจองล่วงหน้าที่สูงที่สุด และยอดขายหลังการเปิดตัวที่ทะยานขึ้นเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ โรลส์-รอยซ์

และสิ่งที่พอจะสู้ได้สูสีกับความร้อนแรงของ คัลลิแนน ที่ผู้คนตั้งตารอคอยมาตลอดทั้งปี ก็คือความตื่นเต้นจากสื่อและสาธารณชนที่ถูกปลุกเร้าโดยการเปิดตัว ราชันย์แห่งรัตติกาล แบล็ค แบดจ์ คัลลิแนน ในเดือนพฤศจิกายน การเปิดตัวนี้คือการทิ้งท้ายอย่างสมบูรณ์แบบให้กับยนตรกรรมตระกูล แบล็ค แบดจ์ ที่ทรนงและทรงพลัง รังสรรค์ขึ้นเพื่อคนยุคใหม่ที่มีรสนิยมสูง ปฏิเสธที่จะถูกตีกรอบด้วยนิยามความหรูหราแบบดั้งเดิม แต่เลือกที่จะเดินตามเส้นทางและกฎเกณฑ์ที่ออกแบบเอง ที่สุดแห่งความหรูหราถูกกลั่นออกมาอยู่ในพื้นที่ทุกตารางนิ้วของยนตรกรรม โรลส์-รอยซ์ แบล็ค แบดจ์ คัลลิแนน ที่นำเสนอระดับใหม่ของความมั่นใจและสมรรถนะให้แก่หนุ่มสาวยุคใหม่ที่รู้จักเลือกและพิถีพิถัน


ถึงคราวอำลาโกสต์ – แต่แค่อึดใจเดียว!

ปี 2562 คือ จุดสิ้นสุดของการผลิต โกสต์ หลังจาก 11 ปีของความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านยอดขายและคำชมจากนักวิจารณ์ นับตั้งแต่เปิดตัวที่งานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ ในปี 2552 โกสต์ ก็ได้สถาปนาตนเองเป็นยนตรกรรมคลาสสิกสมัยใหม่ได้อย่างไร้ข้อกังขา

ในฐานะ โรลส์-รอยซ์ รุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุคของกู๊ดวูด โกสต์ ดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ให้แบรนด์ โรลส์-รอยซ์ ซึ่งมีอายุน้อยลง และโดยมากเป็นผู้ประกอบการที่สร้างฐานะด้วยตนเอง โกสต์ รุ่นฐานล้อยาวเปิดตัวในปี 2554 และ โกสต์ ซีรีส์ II ก็เปิดตัวตามมา ณ เจนีวา ในปี 2557 โกสต์ คันสุดท้ายของรุ่นปัจจุบันได้อำลาสายการผลิตที่กู๊ดวูดไปเมื่อปลายปี 2562 และหลังจาก 5 ปีในการรังสรรค์ ผู้ที่จะมารับช่วงต่อจากโกสต์ ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2563 จะมายกระดับชื่อเสียงของ โกสต์ และแบรนด์ให้ก้าวไปสู่อีกขั้นของความสมบูรณ์แบบและความทะเยอทะยานในการออกแบบ วิศวกรรม วัสดุ และการขับขี่


Bespoke: เพชรน้ำเอกแห่งโรลส์-รอยซ์

ความต้องการทั่วโลกที่มีต่อยนตรกรรมสั่งทำพิเศษ (Bespoke) จากโรลส์-รอยซ์ ได้ไต่ระดับมาจนถึงจุดสูงสุดครั้งใหม่ในปี 2562 กลุ่มนักออกแบบ Bespoke Collective ที่ Home of Rolls-Royce ในกู๊ดวูด เวสต์ซัสเซ็กซ์ ประกอบด้วย ครีเอทีฟ ดีไซเนอร์ วิศวกร และช่างศิลป์หลายร้อยคน บุคลากรทักษะสูงเหล่านี้ภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ตอบโจทย์ของลูกค้าที่หลั่งไหลเข้ามามากมายอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน และต่างต้องการงานออกแบบพิเศษ เจาะจงถึงระดับองค์ประกอบและรายละเอียดของยนตรกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจแต่ละคัน เช่น โรส แฟนธอม

ในฐานะผู้นำระดับโลกอย่างแท้จริงในการแสวงหาความสมบูรณ์แบบ นักออกแบบจาก Bespoke Collective สามารถเข้าถึงและถ่ายทอดจินตนาการของลูกค้า ผู้ที่ชื่นชอบ สื่อ และแฟน ๆ ด้วยคอลเล็กชันยนตรกรรมในปี 2562 ที่งดงามที่สุดเท่าที่เคยสร้างมาในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ สมดังคำกล่าวที่ว่า ‘Bespoke is Rolls-Royce’


ครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น

ด้วยความแข็งแกร่งของทีมงาน โรลส์-รอยซ์ กว่า 2,000 คน จากกว่า 50 สัญชาติ ทำให้ทีมงานที่ Home of Rolls-Royce นั้นใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การเปิดศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศในการผลิตยนตรกรรมลักซ์ชัวรีระดับโลก (Global Centre of luxury Luxury Manufacturing Excellence) ในปี 2546


ก้าวสู่อนาคตด้วยความมั่นใจ

ในปีนี้ โรลส์-รอยซ์ ได้ทำการลงทุนครั้งสำคัญกับฐานการผลิตที่ Home of Rolls-Royce ในกู๊ดวูด เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทต่อการดำเนินธุรกิจในสหราชอาณาจักรและอนาคตอันสดใสในอีกหลายปีข้างหน้า ฐานการผลิตใหม่นี้จะมีความสูงสองชั้น มีกำหนดการแล้วเสร็จในไตรมาสแรกของปี 2563 ซึ่งจะทำให้พื้นที่ชั้นล่างที่ใช้เป็น Assembly Hall กว้างขึ้นอีกกว่า 1,000 ตารางเมตร และเพิ่มพื้นที่สำนักงานในชั้นสอง ในตอนท้าย มร. ทอร์สตัน มูเลอร์-ออทเวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “โรลส์-รอยซ์เป็นบริษัทที่ไม่เหมือนใคร เราทุกคนตระหนักถึงอภิสิทธิ์ที่พวกเราได้รับในฐานะผู้ออกแบบ สร้าง และส่งมอบยนตรกรรม ที่ดีที่สุดในโลกให้กับลูกค้าของเรา สำหรับผมแล้ว ผมรู้สึกเป็นเกียรติและซาบซึ้งใจที่ได้เป็นผู้กุมเข็มทิศให้กับบริษัท ที่ยิ่งใหญ่นี้มาตลอดทศวรรษที่ผ่านมาและสำหรับปีต่อๆไป”

5 views0 comments

Recent Posts

See All

Kommentare


bottom of page